Nightmare-4 Cut KS's Part [SF BAEKDO]


ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนส่งสายตาสำรวจรอบๆ เจ้าของกายสมส่วนกำลังนั่งเช็ดผมอยู่บนเตียงสภาพที่กึ่งเปลือยทำให้ผมลงมือกดล็อคประตูห้องโดยอัตโนมัติ

"จะนอนแล้วเหรอจงแด..?!"

คิ้วเรียวเลิกขึ้นมองก่อนจะขมวดเป็นปมเมื่อเขาหันมาเห็นผมแทนที่จะเป็นเพื่อนของเขา

"นายก็รู้ว่าฉันอยู่ในนี้ ฉันเริ่มสงสัยแล้วนะว่านายคิดจะทำอะไร"

แบคฮยอนหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูงพร้อมทั้งหันกลับมาเผชิญหน้ากับผม ใบหน้าสมบูรณ์แบบดูเข้ากับกล้ามเนื้อกำยำบนแผ่นอกกับลอนหน้าท้องสวยจนผมลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก็พอรับได้หน่อยถ้าจะต้องทำเรื่องอย่างว่า.. ไม่สิ ผมเริ่มยินดีและสนุกขึ้นมาแล้ว

"ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนาย"

"แต่ฉันไม่มี ออกไป"

"นายรังเกียจอะไรฉันนักหนาเหรอ ฉันทำอะไรให้นายไม่พอใจ"

"ทุกอย่าง"

"อะไรกัน นายรู้จักฉันดีพอแล้วหรือไง"

"หึ ข่าวลือเสียหายเกี่ยวกับนายที่มีฉันไปเอี่ยวด้วย ความจริงก็ไม่ใช่เพราะฉันฝ่ายเดียวหรอกนะ แต่เพราะพฤติกรรมที่นายเคยทำต่างหาก"

"นายคงรู้มาจากพวกที่โจมตีฉันใช่ไหม"

"แล้วมันจริงไหมล่ะ เด็กที่คิดถึงแต่ความสนุก เอากับผู้ชายไปทั่ว"

"อื้อ ก็จริง"

แบคฮยอนเหยียดยิ้มใส่ผมนั่นยิ่งเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ผมสลัดคราบคนแสนดีออกซะหมด

"แล้วนายไม่อยากรู้บ้างเหรอว่าคนอื่นๆเขาสนใจอะไรในตัวฉัน"

ผมก้าวเท้าเข้าหาและแน่นอนว่าแบคฮยอนกำลังเริ่มผงะหลบเพราะผมประชิดตัวเขามากเกินไป

"วันนี้นายแปลกมากเลยนะ นายเมินฉัน ไม่ได้เข้ามาทำร้ายฉันอย่างวันก่อนๆ เบื่อกันแล้วหรือไง"

"ฉันต่างหากที่ควรจะพูดคำนี้ นึกอะไรขึ้นมาถึงได้กล้าเดินเข้าหาฉัน ทั้งที่เคยเอาแต่หลบหนี"

"เพราะฉันรู้ว่าการหนีไม่ช่วยอะไรไงล่ะ ฉันเลยอยากเผชิญหน้ากับนายตรงๆ"

ปลายคางเรียวถูกมือผมบังคับให้มองมาที่ผม กรอบนัยน์ตาสีชาต้องปรากฏภาพของผม แค่ผมคนเดียว

"พอไม่ทำกลับเรียกร้อง นายไม่กลัวว่าฉันจะทำร้ายนายแล้วใช่ไหม"

"ฉันไม่เคยกลัวนายแบคฮยอน และตอนนี้ฉันอยากให้นายทำ..ทำอะไรมากกว่าที่เคยทำซะอีก"

"อย่าหวังว่าฉันจะทำแบบนั้นกับนายอย่างคนอื่นๆ ฉันไม่ใช่.."

ผมเลื่อนปลายนิ้วชี้ปิดเรียวปากหยักได้รูป

"อย่าเพิ่งมั่นใจจะดีกว่า นายไม่เคยลองซะหน่อย"

"ถอยไป"

ผมส่ายหน้าน้อยๆพลางส่งยิ้มหวาน น้ำเสียงเย็นเฉียบช่างน่าขนลุกแต่มันก็ท้าทายดีไม่ใช่เหรอ

"ฉันเชื่อว่านายจะทำให้ฉันยิ่งพอใจมากกว่าคนอื่นๆ ใช่ไหม.. โอ๊ย!"

"พูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ!"

ฝ่ามือสากบีบแขนผมเข้าเต็มแรง ไอ้บ้าเอ๊ย โคตรเจ็บ! 

พลั่ก!

ผมใช้แรงทั้งหมดที่ผมมีผลักกายสมส่วนลงบนเตียงนุ่มก่อนใช้สะโพกโถมน้ำหนักทั้งหมดทับหน้าท้องแกร่งไว้ ผมต้องจัดการขั้นเด็ดขาดสักที

"พอได้แล้วแบคฮยอน ฉันไม่ชอบเซ็กส์ที่รุนแรงนะ"

ผมสังเกตม่านตาสีชาที่ขยายกว้างขึ้นทว่ากลับไม่มีอาการอื่นแสดงออกมายามผมปลดกระดุมเสื้อตัวเองลงก่อนเลื่อนมือไปที่กางเกงและถอดทุกอย่างจนไม่เหลือ น่าสนใจครับ เขาเก็บอาการได้เก่งทีเดียว 
แต่บางครั้งคนเราก็ไม่สามารถควบคุมความเป็นไปของร่างกายได้หรอก อย่างเช่นอวัยวะภายใต้ร่มผ้าที่ผมกำลังค่อยๆเคลื่อนสะโพกลงไปกดทับ 

"นายรู้ไหมว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำให้ฉันเจ็บหรือทิ้งรอยบนตัวฉันได้สักคน อยากรู้ไหมว่าทำไม"

"ซีด.."

แบคฮยอนออกแรงดันตัวลุกขึ้นแต่ผมผู้ที่คุมจุดอ่อนของเขาเอาไว้แล้วก็มักจะได้เปรียบเสมอ แค่ขยับสะโพกเบาๆลำก้อนเนื้อก็เริ่มตื่นตัวสู้แล้ว 

"ไม่อยากรู้จริงๆเหรอ?"

"ฉันไม่ได้อยากรู้ว่านายทำอะไรกับใครยังไง! พวกขยะ! อ่า.."

เสียงครางต่ำในลำคอกำลังดึงดูดความสนใจของผมเป็นอย่างมาก กรอบหน้าหล่อที่เงยขึ้นอย่างพยายามอดกลั้นนั่นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมพอใจ

"เพราะฉันเป็นคนคุมทุกอย่างยังไงล่ะ ฉันเก่งกว่าที่นายคิดนะ ร่างกายฉันไม่ได้ถูกทำให้เสียหาย ฉันไม่
ได้เอาตัวเองไปให้คนอื่นย่ำยี แต่ฉันกอบโกยความสุขต่างหาก"

"หึ อายุแค่ 17 แต่ทำไปถึงขนาดนั้นแล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด สรรหาคำมาด่าให้สาสมไม่ได้เลย"

"ฉันทำตั้งแต่อายุแค่ 15 ต่างหาก"

ผมก้มลงกระซิบข้างใบหูหนาก่อนแตะลิ้นลงลากไล้เบาๆ

"ไหนนายบอกว่าไม่ชอบไงแบคฮยอน ลูกชายของนายมันกำลังอ้อนวอนฉันแทบแย่ กับผู้ชายด้วยกันก็ตื่นตัวดีใช่ไหมล่ะ อื้อ~อ.."

ผมวางมือทาบแผ่นอกพร้อมทั้งบดเบียดสะโพกลงไปใจกลางที่แน่นตึง 

"แบคฮยอน.."

เรียวนิ้วสะกิดบนติ่งสวยที่ชันขึ้นทันทีที่ผมเรียกใช้งาน ร่างกายของผมน่ะไม่มีใครทนไหวหรอก ผมเม้มปากช้าๆพลางไล้มือตามลอนหน้าท้องที่หดเกร็งทันทีที่ถูกสัมผัส 

"ภาคภูมิใจในความไร้ค่าของตัวเองมากเลยสิ?"

ประโยคถากถางจากเขาทำให้ผมฉุนกึก ไร้ค่าเหรอ.. ไม่ ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย

"นั่นแหละเหตุผลที่ฉันเกลียดนาย จำเอาไว้นะสิ่งที่ฉันจะทำต่อไปนี้ไม่ได้หมายความว่าฉันพิศวาสอะไร แค่ร่างกายมันทนกับตัวเร้าไม่ได้เท่านั้นเอง"

ว่าไงนะ..

"อื้อ!"

สะโพกของผมถูกมือหนาตะปบเข้าเต็มแรง 

"ก็คงเหมือนพวกตัวอะไรนะ? ที่มีไว้ให้คนแก้เสี้ยน"

"อ้ะ!"

ไม่.. ไม่ใช่แบบนี้สิ ทำไมคำพูดของเขาถึงได้มีอิทธิพลกับใจผมมากนัก 
ไม่อยากยอมรับเลยว่าผมกำลังรู้สึกแย่ 

"ถึงอาจจะหลวมไปหน่อย แต่คงแก้ขัดคืนนี้ได้อยู่นะ"

เรียวนิ้วยาวแทรกเข้ามาตามช่องทางด้านหลัง ผมบิดตัวหนีรู้สึกราวกับกำลังถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
ไอ้แบคฮยอน! ไอ้บ้า! ผมไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาเป็นปีๆแล้วนะ หลวมอะไรจะเจ็บขนาดนี้


"โอ๊ย..อ"

ผมขบปากตัวเองเบาๆก่อนส่งมือลงไปรูดรั้งแกนร้อนเพื่อบรรเทาความเจ็บ อารมณ์ดิบในกายอาจช่วยให้ผมเลิกสนใจความเจ็บปวดได้ไม่มากก็น้อย

"อ๊ะ..อื้อ"

ของเหลวใสที่เริ่มปริ่มออกมาพาให้ผมขยับมือตัวเองเร็วขึ้น ผมกำลังจะไม่ไหวแล้ว..ทว่า

"อื้ออ ปล่อยนะ!"

ปลายนิ้วเรียวปิดส่วนปลายของผมไว้แน่น อยากจะดิ้นพล่านเพราะแรงอารมณ์ที่ถูกสะกดกลั้นไว้

"อ๊ะ! ฉันเจ็บ!"

นิ้วเรียวยาวเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ผมทรมานไปทั้งกาย นี่มันอะไรกัน มันไม่ใช่อย่างที่ผมต้องการนะ!

"อื้ออ"

ผมส่ายหน้าไปมา แบคฮยอนขยี้ส่วนปลายหยักทว่าก็ไม่ยอมละมือออก เรียวปากร้อนทาบทับบนผิวเนื้อของผมก่อนจะตั้งใจทำสิ่งที่ผมไม่เคยอนุญาตใคร

"อ้ะ.. อย่ากัด ห้ามทำนะ อื้อ"

ยิ่งผมเอ่ยห้ามก็ยิ่งถูกสร้างรอยแดงระเรื่อทั่วลำคอลามไปถึงแผ่นอก 

"ไงล่ะ ยังพอใจอยู่ไหม เศษขยะ"

ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มใส่ร่องรอยที่เขาเป็นคนทำ ผมกำหมัดแน่น ก็คนที่เขาเรียกว่าเศษขยะไม่ใช่หรือไงที่เขากำลังสัมผัส

"ด่าแค่ไหนฉันก็ไม่เจ็บหรอก เพราะนายก็กำลังแพ้ภัยตัวเองอยู่ มองให้ดีสิว่านายกำลังทำอะไร อ..เอาออกไป อ้า!"

เขาเปลี่ยนเรียวนิ้วยาวที่สัมผัสด้านหลังให้กลายเป็นสัมผัสที่รุนแรงกว่า แท่งเนื้อขนาดใหญ่กำลังเบียดเสียดเข้าไปในช่องทางคับแคบ 

ใครก็ได้ช่วยด้วย..

"ฮึกก เจ็บ"

ผมผวาทรุดตัวลงกอดกายแกร่งไว้แน่น แม้ว่าน้ำตาที่หยดลงนั้นจะเป็นของจริงเพราะผมกำลังเจ็บมาก แต่กริยาที่ผมแสดงนั่นไม่ใช่ 

ผมจะไม่ยอมแพ้ คนอย่างแบคฮยอนน่ะ..จะต้อง..

"อ๊ะ!!"

เจ้าของกายสมส่วนจับผมพลิกตัวคว่ำ เข่าสองด้านยันพื้นเตียงไว้ ผมแทบจะกรีดร้องลั่นเพราะแบคฮยอนโถมตัวเข้ามาสุด เรียวแขนอ่อนแรงพยุงตนเอง ผมซุกหน้าแนบลงกับหมอนใบใหญ่

"ลดเสียงหน่อยคยองซู"

"อ..อื้ออ"

กรอบหน้าคมคลอเคลียอยู่บนแผ่นหลัง นัยน์ตาสีชาของเขากำลังสะท้อนภาพใบหน้าของผมที่ขึ้นสีแดงซ่าน อุณหภูมิในกายพุ่งขึ้นสูง ไรผมบางซึมไปด้วยเม็ดเหงื่อ 

หึ.. ปากก็ด่าไปเถอะ ปฏิเสธเข้าไปแต่ตัวกลับยัดเยียดทั้งความเจ็บแสบและความเสียวซ่านให้ผมไม่หยุด

"อ๊ะ..อ"

ผมจึกหมอนแน่น ความรู้สึกบางอย่างกำลังเล่นงานผมเข้าอย่างจัง

"อ..อย่าเพิ่ง"

ผมเอื้อมจับมือของแบคฮยอนไว้ เขากำลังจะผละออกตรงจุดสำคัญแต่ผมอยากได้..และผมต้องการ

"ฮ..อื้ออ~"

ผมเงยหน้าขึ้นกดสะโพกลงทับบนหน้าตักคนด้านหลังก่อนขยับตัวขึ้นลงช้าๆและกดค้างไว้อย่างเอาใจ แขนหนาที่เกร็งขึ้นเป็นแนวทำให้ผมกดยิ้มอย่างพึงพอใจ 

เวลานี้เขาต้องคลั่งตายแน่ๆ

"ดีจังเลยแบคฮยอน อ้า..อ แรงอีก"

ราวกับคำพูดของผมไปกระตุ้นต่อมโมโห เขาคงไม่พอใจที่เห็นผมยังทำหน้ารื่นเริงอยู่ได้ ผมกัดปากช้าๆก่อนเบี่ยงใบหน้าประทับรอยจูบลงข้างผิวแก้ม ไม่นานริมฝีปากบางก็หักห้ามใจไม่ให้เลื่อนเข้ามาป้อนจูบหนักๆให้ผมไม่ได้ 

มันจบแล้วแบคฮยอน แค่จูบเดียวต่อจากนี้เขาจะต้องทำตามความต้องการของผม มอบความสุขให้ผม

"อื้ม~"

แผ่นหลังของผมสัมผัสได้ถึงผิวเตียงนุ่มอย่างแผ่วเบา จังหวะเชื่องช้าพร้อมทั้งรสชาติจูบที่อีกฝ่ายขยันกดย้ำให้ผมไม่เลิกพาให้ร่างกายเบาหวิวราวกับล่องลอยอยู่กลางอากาศ แม้ว่าผมจะลืมตาเก็บรายละเอียดบนโครงหน้าหล่อของคนด้านบนแต่ภาพในหัวกลับขาวโพลน ดีเหลือเกิน..

"บ..เบาก่อนครับแบค อย่าใจร้อนสิ"

ผมไล้ปลายนิ้วตามกรอบหน้าเรียว เขาว่ากันว่าคนเย็นชามักจะใจร้อนคงจริงนะครับ ผมอมยิ้มน้อยๆก่อนจะเผยอปากครางหวาน เขากำลังทำสิ่งที่ถูกใจและตามใจผมทุกอย่าง ผมหลุบลงมองกลุ่มผมนุ่มที่ซุกอยู่กับอก ยอดอกสีสวยฉ่ำน้ำไปหมด 

นี่น่ะเหรอสัมผัสของคนที่บอกว่าไม่ชอบ.. รอยประทับจูบของเขาแทบไม่เหลือพื้นที่สักตารางนิ้วบนตัวผมเลย สัมผัสยิ่งกว่าคนที่ต้องการผมซะอีก หรือว่าเขาจะเสียสติไปแล้วนะ?

"แบคฮยอน.."

"อย่าเพิ่งขัดใจฉันได้ไหมคยองซู"

เพียงแค่ผมจับใบหน้าของเขาตรึงไว้นิ่งไม่ให้ลามปามไปจุดอื่นก็โดนคนเอาแต่ใจดุอย่างหนักเลย

"อ..อ๊ะ! ฉันเจ็บนะ"

"เจ็บก็ดี จะได้ไม่ต้องไปทำอีก"

แววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการทอดมองผม มันหนักแน่นและน่ากลัวแปลกๆ ทำไมจู่ๆผมถึงรู้สึกเกรงใจเขาขึ้นมา..

"อื้ออ..อ..อ้ะ!"

ผมจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างลากปลายนิ้วข่วนเป็นทางยาวลงไปถึงกลางแผ่นหลัง หลับตาเชิดหน้าขึ้นปล่อยทุกอย่างไปตามแรงอารมณ์ ไอ้แบคฮยอน! คนเลี้ยงไม่เชื่อง! เขาไม่ตามใจผมอีกแล้ว แถมความรุนแรงที่ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัวและไม่มีทีท่าที่จะลดลงเลยสักนิด 

เวลาของค่ำคืนนี้ค่อยๆดำเนินผ่านไปโดยที่ผมทั้งเจ็บปวดทั้งสุขสม ความรู้สึกมันสับสนตีกันมั่วไปหมด รู้สึกเจ็บหน่วงที่ใจทุกครั้งที่นึกถึงสิ่งที่เขาต่อว่าและรู้สึกดีทุกครั้งที่เห็นเขาไม่ยอมผละออกจากร่างของผมเลย ครั้งแล้วครั้งเล่า เนิ่นนานอย่างคนไม่รู้จักพอ ก่อนที่ครั้งสุดท้ายจะต้องดำเนินมาถึงเพราะผมกำลังหมดแรงทรุดตัวลงจมพื้นเตียงพร้อมกับเปลือกตาที่ปิดสนิทด้วยความอ่อนเพลีย ไม่นานภาพทุกอย่างค่อยเลือนหายไป




ความคิดเห็น